การหายใจ

ในกรอบสีแดงคือประโยคที่มักจะมีปัญหาเนื่องจากการค้างโน้ต F# ซึ่งเป็น Passagio นั้นใช้แรงมากกว่าการค้างโน้ตปกติ และต่อด้วยการยืดจังหวะให้ช้าลงในกลุ่มโน้ต Ornament เพื่อเว้นวรรคประโยคเพลง ก่อนจะเข้าประโยคใหม่ในกรอบสีฟ้า ซึ่งมีเครื่องหมาย Fermata กำกับเพื่อยืดจังหวะออกไปอีก 

​

ปัญหาที่พบในสองประโยคนี้คือ ลมไม่เพียงพอสำหรับการร้องประโยคในกรอบสีแดงให้ได้ตามที่ต้องการ เป็นผลกระทบทำให้กระทบต่อระบบซัพพอร์ตซึ่งจำเป็นอย่างมากในการร้องประโยคในกรอบสีฟ้า เนื่องจากเป็นการขึ้นต้นประโยคด้วยโน้ตที่ค่อนข้างสูง 

​

หลังจากการอ่านหนังสือของเตตราสซินี จึงลองใช้ลมให้น้อยลง และช้าลงที่ประโยคในกรอบสีแดง

ทำให้เหนื่อยน้อยลง และยังส่งผลดีต่อระบบซัพพอร์ตทำให้เมื่อหายใจเข้าใหม่ก่อนร้องประโยคในกรอบสีฟ้า และยังสามารถรักษาระดับของระบบซัพพอร์ต ได้แก่ปอด กระบังลม และระดับของกล่องเสียง ให้อยู่ในที่ๆ พร้อมแก่การใช้งานตลอดเวลา เมื่อหายใจได้อย่างถูกต้อง จึงทำให้การสื่อสารของประโยคเพลงเป็นไปตามที่ต้องการ

​

เมื่อใช้ลมช้าลง สามารถสังเกตร่างกายได้ว่า ระบบซัพพอร์ตทำงานดีขึ้น เนื่องจากสามารถรู้สึกเหมือนที่ในหนังสือกล่าว คือรู้สึกถึงแรงต้านที่ด้านในหน้าอก และเมื่อปอดขยาย ซี่โครงขยาย กระบังลมถูกดันลงต่ำเนื่องจากการขยายตัวของปอด ซึ่งเมื่อปอดขยายเต็มที่จนสามารถมองเห็นได้จากภายนอกว่าข้างลำตัวขยายออกแล้วนั้น ยังสามารถสังเกตเห็นได้ชัดว่าหน้าอกที่มีลักษณะยกขึ้นเล็กน้อยจากการขยายตัวของปอดด้วยเช่นกัน

การเริ่มต้นประโยคเพลงก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องตระเตรียมสมาธิให้พร้อม คิดถึงการทำงานของระบบซัพพอร์ท กระบังลม เติมลมในปอดให้พอดีจนรู้สึกถึงแรงต้านในหน้าอก เมื่อรู้สึกได้แบบนี้แล้ว สิ่งที่จะสังเกตได้ต่อไปคือระดับของกล่องเสียงที่ลดต่ำลง พร้อมต่อการใช้งาน ซึ่งจะทำให้ได้เสียงที่กังวาลขึ้น และเป็นการใช้เสียงที่ปลอดภัยต่อสุขภาพเส้นเสียงอีกด้วย

ทั้งหมดคือการทำงานกับแรงโน้มถ่วง แรงลม อย่างยืดหยุ่น ไม่ใช่การเกร็ง หรือการบังคับร่างกาย แต่เป็นการทำความเข้าใจ และสังเกตว่าร่างกายเราสามารถพัตนาขีดจำกัดไปได้มาเพียงไหน

​

​